รูปแบบการจัดการความรู้ของบุคลากรในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1
KNOWLEDGE MANAGEMENT MODEL OF PERSONNEL IN BASIC EDUCATIONAL INSTITUTIONS UNDER KHONKAEN PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE 1
Abstract
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันสภาพที่พึงประสงค์และความต้องการจำเป็นของการจัดการความรู้ของบุคลากรในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 2)เพื่อสร้างรูปแบบการจัดการความรู้ของบุคลากรในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 3)เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการความรู้ของบุคลากรในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 163 คน รองผู้อำนวยการโรงเรียน จำนวน 160 คน ครูผู้สอน จำนวน 237 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 560 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามมาตรประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเที่ยงตรงของเนื้อหาระหว่าง 0.67-1.00 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น (PNIModified)
ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพปัจจุบันโดยรวมอยู่ในระดับน้อย ส่วนสภาพที่พึงประสงค์โดยรวมอยู่ในระดับมาก และความต้องการจำเป็นของการจัดการความรู้ของบุคลากรในสถานศึกษาขั้นมีความต้องการจำเป็นโดยมีค่า PNImodified อยู่ระหว่าง 0.44-0.50 2. รูปแบบการจัดการความรู้ของบุคลากรในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วย 1) การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ 2) การกำหนดความรู้ 3) การแลกเปลี่ยนความรู้ 4) การสร้างความรู้ 5) การถ่ายโอนความรู้ 3. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการความรู้ของบุคลากรในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 พบว่า มีความเหมาะสม ความเป็นไปได้อยู่ในระดับมาก สารมารถนำไปใช้พัฒนาบุคลากรในสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
References
กุลพัทธ์ กุลชาติดิลก. (2561). รูปแบบการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์. วารสารศาสตร์การศึกษาและการพัฒนามนุษย์. 2(2). 41-46.
จุฑามาศ อินตรา. (2564). การจัดการความรู้ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของข้าราชการในหน่วยงานสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม. วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา. 11(2). 275-286.
นงลักษณ์ วิรัชชัย, และสุวิมล ว่องวาณิช. (2541). การสังเคราะห์งานวิจัยทางการศึกษาด้วยการวิเคราะห์อภิมานและการวิเคราะห์เนื้อหา. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
ราชกิจจานุเบกษา. (2543). การแบ่งส่วนราชการภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พ.ศ.2553. ราชกิจจานุเบกษาเล่ม 127 ตอน พิเศษ 109 ง; 14 กันยายน 2553.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1. (2564). รายงานประจำปี 2564. ขอนแก่น : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2554). การจัดการความรู้ Knowledge Management: KM) กับการบริหารราชการสมัยใหม่. สืบค้นเมื่อ 14 กรกฎาคม 2564. จาก http:// www.thailocaladmin.go.th/work/km/home/kmstory2.htm.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2564). รายงานประจำปี 2564 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ.
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคณภาพการศึกษา. (2554). คู่มือการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.2554–2558) ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับสถานศึกษา พ.ศ. 2554. กรุงเทพฯ : สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคณภาพการศึกษา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). สภาพการจัดการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้. กรุงเทพฯ : วี.ที.ซี. คอมมิวนิเคชั่น.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3). 607–610.